" ดร.อนุศาสตร์" นำคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด แจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทกับ "ดร.วิศร์" ประธานชมรมฯ ฐานทำให้ สอ.ครูขอนแก่น เสียหายโดยการโฆษณาทางเอกสาร พร้อมทั้งได้แถลงข่าวตอบโต้ ยืนยันเงินในบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ไม่ได้หายไป 1,175 ล้านบาท แต่หายไปจริง 405 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย)
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 เวลา 11.00 น.ณ ห้องประชุมชั้น 3 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้มีการแถลงข่าว "ข้อเท็จจริงในการบริหารงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด" โดยมี ดร. อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เป็นประธานงานแถลงข่าว หลังจากกรณีที่ดร.วิศว์ อัครสันติคุณ ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้เผยแพร่ข่าวข้อมูลต่อสื่อมวลชน โดยได้กล่าวหา คณะกรรมการดำเนินงาน สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด ชุดที่57/2562 และชุดที่ 58/ 2563 ว่าร่วมกันปกปิดซุกซ่อนข้อเท็จจริง การแถลงข่าวครั้งนี้ได้มีนายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด นายเพ็ชรัตน์ อ่างยาน เลขานุการ พร้อมด้วยคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วยโดยคณะกรรมการฯประกอบไปด้วย ดร.วิรัช เจริญเชื้อ  รองประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด นายสุพรรณ ศรีตะวัน  รองประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด  นายสวัสดิ์  แก้วชนะ  รองประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด       นางนงลักษณ์ ศรีปัญญา   รองประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด นางนภกช สาคร  รองประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด  นายเพ็ชรัตน์ อ่างยาน  เลขานุการ   นายสุพรรณ ประพาศพงษ์   เหรัญญิก  นายศักดา เชาว์พานิช   กรรมการ   นางเพ็ญศรี คะมานิคม   กรรมการ นายทองสุก ศรีใส   กรรมการ นางอภิรดี นิราศสูงเนิน    กรรมการ นายวิเชียร   ไกรศรีวรรธนะ  กรรมการ นายบดินทร์  บุญลือ     กรรมการตลอดจน คณะผู้บริหาร บุคลากร เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ขอนแก่นจำกัด และสื่อมวลชนที่ร่วมรับฟังการชี้แจงข้อมูลในครั้งนี้

            ก่อนที่ ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จะได้มีการแถลงข่าวปรากฎจากรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 เวลา 10.00 น ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์พร้อมด้วยคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดพร้อมด้วย ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด รวมทั้งสิ้น 14 คน ได้เดินหน้าเข้าพบ ร.ต.อ.สิงหา หงษ์อ่อน รองสว.(สอบสวน) พนักงานสอบสวนเวร​ฯ ประจำสภ.เมือง ขอนแก่น เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นและพวก ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาทางเอกสาร เหตุเกิดที่ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2563  กรณีกล่าวหาว่า คณะกรรมการฯปกปิดข้อมูลจำนวนเงินที่หายไปจากสหกรณ์ออมทรัพย์จำนวน 1,175 บาท ซึ่งไม่เป็นความจริง ก่อให้เกิดความเสียหายกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด โดยพนักงานสอบสวนได้นัดให้มาสอบปากคำในวันที่ 17พ.ค.2563 เวลา 10.00 น.

                  ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้แถลงข่าวว่า ตามที่ ดร.วิศร์ อัครสันติกุล นายไพฑูรย์ พิมพ์ทอง นายอุดม สงวนชม และดร.จิรพงษ์ ไชยยศ ได้เผยแพร่ข่าวข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสื่อคอมพิวเตอร์ กล่าวหาคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ปี 2562 ต่อเนื่องปี 2563 ว่าร่วมกันปกปิดซ่อนข้อเท็จจริงพยานหลักฐานด้านการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เมื่อคราวประชุมวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ว่าเงินสหกรณ์หายไปเป็นเงินกว่า 1,175 ล้านบาท แต่ที่นำเสนอว่ามีเงิน ไปเพียง 396 ล้านบาท มิได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สหกรณ์ฯ ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของมวลสมาชิกโดยทำเรื่องให้นายทะเบียนให้คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด พ้นจากตำแหน่ง เป็นการกล่าวหาที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด และคณะกรรมการดำเนินการ อย่างร้ายแรง ข้อมูลที่ทางชมรมฯได้จากการไปขอคัดคำฟ้องศาลที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ดำเนินการฟ้องไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 แล้วนำมาตีแผ่ในสื่อมวลชนด้วยมารยาทคดีอยู่ระหว่างดำเนินการเขาจะไม่กระทำกันจะทำให้เสียรูปคดี และก้าวล่วงการทำงานของเจ้าพนักงานและทนายความ แต่เมื่อชมรมฯได้นำมาเปิดเผยคณะกรรมการดำเนินการ เมื่อเช้าประชุมวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 จึงจำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจข้อเท็จจริงดังกล่าว
จึงขอร้องให้พวกเรามาช่วยกันคิดวางแผนพัฒนาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ให้เกิดความก้าวหน้า เป็นที่เชื่อถือของสถาบันการเงินต่างๆที่เป็นพันธมิตรกับเราและหาวิธีการช่วยเหลือสมาชิกเราทุกคนให้อยู่ดีมีสุข ตามอุดมการณ์ ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ขอให้ความมั่นใจกับมวลสมาชิกว่าสหกรณ์ของเรามีความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนเพื่อเป็นที่พึ่งของมวลสมาชิกสื่อไปปัจจุบันการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัดดำเนินไปอย่างปกติอย่าหวั่นวิตกกับข่าวลือดังกล่าวและคณะกรรมการดำเนินการได้มีหนังสือชี้แจงนายทะเบียนและสถาบันการเงินต่างๆเพื่อให้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง  

           ทางด้านนายทนงศักดิ์  วังสงค์ ผู้จัดการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กล่าวแถลงข่าวว่า ดังนั้นเพื่อเป็นข้อมูลที่ถูกต้องแก่สมาชิกและสื่อมวลชน โดยมีรายละเอียดลำดับขั้นตอนการติดตามบัญชีเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) สาขาถนนดินแดงเลขที่บัญชี 144101918-9  ดังนี้
19  ตุลาคม 2562 ที่ประชุมใหญ่วิสามัญที่ จ.หนองคาย ได้มอบภารกิจให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเงินฝากประจำหายไปกว่า 400 ล้านจริงหรือไม่
24 ตุลาคม 2562  คณะกรรมการดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รายงานภายใน 7 วัน
5 พฤศจิกายน 2562 ชมรมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ยื่นขอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อติดตามความเคลื่อนไหว  คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รายงานคณะกรรมการดำเนินการทราบและขยายเวลาในการตรวจสอบคณะกรรมการมีมติให้ ขยายเวลาออกไปถึง 30 พฤศจิกายน 2562 และมีมติให้ทำหนังสือขอ  Statement จากธนาคาร
8 พฤศจิกายน 2562  ทำหนังสือขอ Statement จากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)
18 พฤศจิกายน 2562 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)แจ้งกลับไม่สามารถให้ Statement ได้ต้องให้ผู้มีอำนาจกระทำการในสมุดคู่ฝาก 3 ใน 4 คนลงชื่อยื่นขอ Statement  คณะกรรมการดำเนินการเดินทางไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาเทสโก โลตัสเอ๊กซ์ตร้าเพื่อขอปรับสมุดคู่ฝากและขอ statement แต่ไม่สามารถดำเนินการได้

 

             21 พฤศจิกายน 2562 คณะกรรมการดำเนินการมีมติมอบคณะทำงานขอใบเปลี่ยนแปลงลายมือชื่อและขอ Statement จากธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ กทม.
             25 พฤศจิกายน 2562 คณะกรรมการที่ได้รับมอบหมาย ลงไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) สาขาถนนดินแดน กทม. และได้รับ Statement
ในเบื้องต้นคณะกรรมการฯได้ทราบข้อมูลจาก Statement เท่านั้นยังไม่ได้รายละเอียดการเบิกถอน สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จึงมีหนังสือที่ สอ.คขก.1898/2562 ลว.25 พฤศจิกายน 2562 เพื่อขอรายละเอียดในบัญชีเงินฝากประจำเลขที่  144-101918-9 จำนวน 11 รายการ เมื่อได้เฉพาะข้อมูลจาก Statement จึงตรวจสอบจาก Statement ที่ได้รับ
              ปรากฏว่าเงินคงเหลือจริง 79,714.16 บาท เมื่อเป็นเช่นนี้ คณะกรรมการฯได้ดูเอกสารการประชุมคณะกรรมการดำเนินการครั้งที่ 31/2562 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งระบุยอดเงินฝากประจำธนาคารดังกล่าว จำนวน 431,941,784.59 บาทประกอบกับสมุดคู่ฝากมียอดปรากฏ จำนวน 431,941,784.59 บาท ซึ่งเป็นข้อมูลในการสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเงินหายไป จำนวน 431,862,070 บาท(431,941,784.59 – 79,714.16 = 431,862,070)
           ดังนั้น ในวันประชุมใหญ่วิสามัญคณะกรรมการยังไม่ได้รับเอกสารการเบิกถอนแต่อย่างใด การที่ชมรมฯอ้างว่าไม่นำรายละเอียดการเบิกถอนตามที่ชมรมให้ข่าว ว่าปกปิดซุกซ่อนข้อเท็จจริง จึงเป็นกล่าวหาลอยๆ ไม่มีข้อมูลชัดเจน ทำให้คณะกรรมการดำเนินการได้รับความเสียหาย
6 ธันวาคม 2562 คณะกรรมการดำเนินการ เข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อ  DSI
8 ธันวาคม 2562 คณะกรรมการดำเนินการ เข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อสภ.เมืองขอนแก่น
12 ธันวาคม 2562ประธานคณะกรรมการดำเนินการ ตัวแทนไตรภาคี เดินทางไปรับเอกสารใบเบิกถอนที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จ กัด (มหาชน) สาขาเทสโก โลตัสเอ๊กซต้า ซึ่งได้รับมาแค่ 2 รายการ คือ รายการเบิกถอนวันที่ 16/08/11 ยอดเงิน 296,000,000.00 บาทและ รายการเบิก ถอนวันที่ 16/08/11 ยอดเงิน 100,000,000.00 บาท ถึงทราบบุคคลที่เบิกถอนคือ นายเอกราช ช่างเหลา  นายนพรัตน์ สร้างนานอก  นายสมศักดิ์  โคตรวงศ์ แล้วโอนเข้าบัญชี นายเอกราช ช่างเหลา และมอบผู้จัดการตรวจสอบว่ามีการโอนเงินยอดนี้กลับเข้ามาบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด สาขามอดินแดงหรือไม่ จากการตรวจสอบไม่มีรายการโอนกลับเข้าบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดแต่อย่างใด
17 ธันวาคม 2562 คณะกรรมการมอบให้ทนายความนำเอกสารที่ได้รับจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)สาขาถนนดินแดง จำนวน 2 รายการส่งให้ สภ.เมืองขอนแก่นและระบุตัวผู้กระทำความผิด
20 ธันวาคม 2562 คณะกรรมการดำเนินการได้รับเอกสารทั้งหมดในส่วนที่เหลือจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดง และประชุมพิจารณา มอบผู้จัดการตรวจสอบเมื่อมีการ เบิกถอนเงินจากบัญชีแล้วมีการโอนกลับเข้าบัญชีของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด สาขามอดินแดงหรือไม่ และได้มอบเอกสารทั้งหมดให้ทนายความดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ซึ่งทาง สภ.เมืองขอนแก่นได้รับเอกสารทั้งหมด เรียบร้อยแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการทางคดี
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางคดีคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้ ติดตามทางคดีเป็นระยะมีหลักฐานเป็นหนังสืออ้างอิงได้อย่างชัดเจนการที่ชมรมฯกล่าวหาว่าละเลยในการ ติดตามคดี จึงเป็นการกล่าวหาลอยๆ คณะกรรมการดำเนินการต้องขอขอบคุณคณะทีมนายตำรวจ สภ.เมือง ขอนแก่น ที่ได้เอาใจใส่เป็นอย่างดียิ่ง เนื่องจากเป็นคดีที่สำคัญท่านต้องรอบคอบในการรวบรวม พยานหลักฐาน ระยะเวลาล่วงเลยมาสักพักเราจึงขอให้ทนายฟ้องศาลโดยตรง ในวันที่ 17 เมษายน 2563 โดย ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ควบคู่ไปกับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมือง ขอนแก่น
ปัจจุบันเรื่องอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี คณะกรรมการดำเนินการจึงขอเรียนข้อเท็จจริงเบื้องต้น ให้ สมาชิกทราบว่าคณะกรรมการดำเนินการมีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจในการแก้ปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้ปล่อยปละละเลยหรือไม่ได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ตามที่ชมรมฯกล่าวหา และขอยืนยันว่ายอดเงินที่หายไปจากบัญชีเงิน ฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนดินแดง กทม บัญชีเลขที่  144-101918-9 ไม่ใช่ยอด 1,175 ล้านบาทดังที่ชมรมให้ข่าวแต่อย่างใดเพราะชมรมมีข้อมูลเฉพาะใบเบิกถอน แต่หลักฐานการโอนกลับมาบัญชีของ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด สาขามอดินแดงชมรมไม่มีหลักฐาน  หลังจากมีการตรวจสอบเอกสาร ที่มีทั้งหมดจำนวนเงินที่ถูกประทุษร้ายไปจริงจำนวน 405 ล้านบาท (ไม่ได้คำนวณดอกเบี้ย)แต่คณะกรรมการดำเนินการร้องทุกข์ไป จำนวน 431 ล้านบาท  (431,862,070 บาท) จึงเป็นตัวเลขกรณีลูกหนี้ เงินสดขาดบัญชีโดยยึดข้อมูลเบื้องต้นที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งใกล้เคียงกับการตรวจสอบเมื่อได้เอกสารมาครบ จากทางธนาคาร  (ตามเอกสารข้อเท็จจริงบัญชีเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดง เลขที่บัญชี 144-101918-9)

***ข้อเท็จจริงบัญชีเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
 สาขาถนนดินแดง  เลขที่บัญชี 144-101918-9***

“ข้อเท็จจริงบัญชีเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดง เลขที่บัญชี 144-101918-9” มีใจความว่า ตามที่ ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล นายไพทูรย์ พิมพ์ทอง นายอุดม สงวนชม ดร.จิรพงษ์  ไชยยศ ได้ร่วมกันเผยแพร่ข่าวข้อมูลต่อสื่อมวลชน “อีสานบิซ” กล่าวหาคณะกรรมการฯ ชุดปี 2562 ต่อเนื่องปี 2563 ว่าร่วมกันปกปิดซ่อนข้อเท็จจริงพยานหลักฐานด้านการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ขอนแก่น จำกัด เมื่อคราวประชุมวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ว่าเงินสหกรณ์หายเป็นเงินกว่า 1,175 ล้านบาท แต่นำเสนอว่ามีเงินไปเพียง 396 ล้านบาท  มิได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สหกรณ์ ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของ มวลสมาชิกโดยทำเรื่องให้นายทะเบียนให้คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น พ้นจากตำแหน่ง เป็นการกล่าวหาที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดและคณะกรรมการดำเนินการอย่างร้ายแรง ข้อมูลที่ทางชมรมฯได้จากการไปขอคัดคำฟ้องศาลที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ดำเนินการฟ้องไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 แล้วนำมาตีแผ่ในสื่อมวลชนด้วยมารยาทคดีอยู่ระหว่างดำเนินการเขาจะไม่กระทำกันจะทำให้เสียรูปคดีและก้าวล่วงการทำงานของเจ้าพนักงานและทนายความ แต่เมื่อชมรมฯได้นำมาเปิดเผยคณะกรรมการดำเนินการเมื่อคราว ประชุมวันที่13 พฤษภาคม 2563 จำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจข้อเท็จจริงดังกล่าว
ดังนั้นเพื่อเป็นข้อมูลที่ถูกต้องแก่สมาชิกและสื่อมวลชน โดยมีรายละเอียดลำดับขั้นตอนการติดตามบัญชีเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) สาขาถนนดินแดงเลขที่บัญชี 144101918-9  ดังนี้
19  ตุลาคม 2562 ที่ประชุมใหญ่วิสามัญที่ จ.หนองคาย ได้มอบภารกิจให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเงินฝากประจำหายไปกว่า 400 ล้านจริงหรือไม่
24 ตุลาคม 2562  คณะกรรมการดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รายงานภายใน 7 วัน
5 พฤศจิกายน 2562 ชมรมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ยื่นขอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อติดตามความเคลื่อนไหว  คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รายงานคณะกรรมการดำเนินการทราบและขยายเวลาในการตรวจสอบคณะกรรมการมีมติให้ ขยายเวลาออกไปถึง 30 พฤศจิกายน 2562 และมีมติให้ทำหนังสือขอ  Statement จากธนาคาร
8 พฤศจิกายน 2562  ทำหนังสือขอ Statement จากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)
18 พฤศจิกายน 2562 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)แจ้งกลับไม่สามารถให้ Statement ได้ต้องให้ผู้มีอำนาจกระทำการในสมุดคู่ฝาก 3 ใน 4 คนลงชื่อยื่นขอ Statement  คณะกรรมการดำเนินการเดินทางไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาเทสโก โลตัสเอ๊กซ์ตร้าเพื่อขอปรับสมุดคู่ฝากและขอ statement แต่ไม่สามารถดำเนินการได้
21 พฤศจิกายน 2562 คณะกรรมการดำเนินการมีมติมอบคณะทำงานขอใบเปลี่ยนแปลงลายมือชื่อและขอ Statement จากธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ กทม.
25 พฤศจิกายน 2562 คณะกรรมการที่ได้รับมอบหมาย ลงไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) สาขาถนนดินแดน กทม. และได้รับ Statement
ในเบื้องต้นคณะกรรมการฯได้ทราบข้อมูลจาก Statement เท่านั้นยังไม่ได้รายละเอียดการเบิกถอน สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จึงมีหนังสือที่ สอ.คขก.1898/2562 ลว.25 พฤศจิกายน 2562 เพื่อขอรายละเอียดในบัญชีเงินฝากประจำเลขที่  144-101918-9 จำนวน 11 รายการ เมื่อได้เฉพาะข้อมูลจาก Statement จึงตรวจสอบจาก Statement ที่ได้รับ
ปรากฏว่าเงินคงเหลือจริง 79,714.16 บาท เมื่อเป็นเช่นนี้ คณะกรรมการฯได้ดูเอกสารการประชุมคณะกรรมการดำเนินการครั้งที่ 31/2562 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งระบุยอดเงินฝากประจำธนาคารดังกล่าว จำนวน 431,941,784.59 บาทประกอบกับสมุดคู่ฝากมียอดปรากฏ จำนวน 431,941,784.59 บาท ซึ่งเป็นข้อมูลในการสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเงินหายไป จำนวน 431,862,070 บาท(431,941,784.59 – 79,714.16 = 431,862,070)
       ดังนั้น จากข้อสันนิษฐานเบื้องต้นตรงนี้ถ้าตัวเลขไม่เป็นจริงจากเอกสารการประชุมกับสมุดคู่ฝากจะเป็นข้อหาทำเอกสารอันเป็นเท็จหรือปลอมแปลงเอกสาร
27 พฤศจิกายน 2562 คณะกรรมการนำ statement ที่ได้รับมาพิจารณาดำเนินการตรวจสอบมีมติตามข้อบังคับที่ 104 ร้องทุกข์ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกำหนดการประชุมใหญ่วิสามัญขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม 2562  ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ (ไคซ์) ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
4 ธันวาคม 2562 ที่ประชุมใหญ่วิสามัญนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงตาม Statement เพราะยังไม่ได้รับเอกสารการเบิก ถอนจากธนาคาร โดยนำข้อมูลที่คณะกรรมการอนุมัติให้ร้องทุกข์ตามข้อบังคับที่ 104 เสนอที่ประชุมคือเงินคงเหลือจริง 79,714.16 บาท ข้อมูลจากเอกสารการประชุมคณะกรรมการดำเนินการครั้งที่ 31 /2562 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 ซึ่ง ระบุยอดเงินฝากประจำธนาคารดังกล่าว จำนวน 431,941,784.59 บาทประกอบกับสมุดคู่ฝากมียอดปรากฏจำนวน 431,941,784.59 บาท ซึ่งเป็นข้อมูลในการสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเงินหายไป จำนวน 431,862,070 บาท (431,941,784.59 – 79,714.16 = 431,862,070) 
ดังนั้น ในวันประชุมใหญ่วิสามัญคณะกรรมการยังไม่ได้รับเอกสารการเบิกถอนแต่อย่างใด การที่ชมรมฯอ้างว่าไม่นำรายละเอียดการเบิกถอนตามที่ชมรมให้ข่าว ว่าปกปิดซุกซ่อนข้อเท็จจริง จึงเป็นกล่าวหาลอยๆ ไม่มีข้อมูลชัดเจน ทำให้คณะกรรมการดำเนินการได้รับความเสียหาย
6 ธันวาคม 2562 คณะกรรมการดำเนินการ เข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อ  DSI
8 ธันวาคม 2562 คณะกรรมการดำเนินการ เข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อสภ.เมืองขอนแก่น
12 ธันวาคม 2562ประธานคณะกรรมการดำเนินการ ตัวแทนไตรภาคี เดินทางไปรับเอกสารใบเบิกถอนที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จ กัด (มหาชน) สาขาเทสโก โลตัสเอ๊กซต้า ซึ่งได้รับมาแค่ 2 รายการ คือ รายการเบิกถอนวันที่ 16/08/11 ยอดเงิน 296,000,000.00 บาทและ รายการเบิก ถอนวันที่ 16/08/11 ยอดเงิน 100,000,000.00 บาท ถึงทราบบุคคลที่เบิกถอนคือ นายเอกราช ช่างเหลา  นายนพรัตน์ สร้างนานอก  นายสมศักดิ์  โคตรวงศ์ แล้วโอนเข้าบัญชี นายเอกราช ช่างเหลา และมอบผู้จัดการตรวจสอบว่ามีการโอนเงินยอดนี้กลับเข้ามาบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด สาขามอดินแดงหรือไม่ จากการตรวจสอบไม่มีรายการโอนกลับเข้าบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดแต่อย่างใด
17 ธันวาคม 2562 คณะกรรมการมอบให้ทนายความนำเอกสารที่ได้รับจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)สาขาถนนดินแดง จำนวน 2 รายการส่งให้ สภ.เมืองขอนแก่นและระบุตัวผู้กระทำความผิด
20 ธันวาคม 2562 คณะกรรมการดำเนินการได้รับเอกสารทั้งหมดในส่วนที่เหลือจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดง และประชุมพิจารณา มอบผู้จัดการตรวจสอบเมื่อมีการ เบิกถอนเงินจากบัญชีแล้วมีการโอนกลับเข้าบัญชีของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด สาขามอดินแดงหรือไม่ และได้มอบเอกสารทั้งหมดให้ทนายความดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ซึ่งทาง สภ.เมืองขอนแก่นได้รับเอกสารทั้งหมด เรียบร้อยแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการทางคดี
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางคดีคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้ ติดตามทางคดีเป็นระยะมีหลักฐานเป็นหนังสืออ้างอิงได้อย่างชัดเจนการที่ชมรมฯกล่าวหาว่าละเลยในการ ติดตามคดี จึงเป็นการกล่าวหาลอยๆ คณะกรรมการดำเนินการต้องขอขอบคุณคณะทีมนายตำรวจ สภ.เมือง ขอนแก่น ที่ได้เอาใจใส่เป็นอย่างดียิ่ง เนื่องจากเป็นคดีที่สำคัญท่านต้องรอบคอบในการรวบรวม พยานหลักฐาน ระยะเวลาล่วงเลยมาสักพักเราจึงขอให้ทนายฟ้องศาลโดยตรง ในวันที่ 17 เมษายน 2563 โดย ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ควบคู่ไปกับการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมือง ขอนแก่น
ปัจจุบันเรื่องอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี คณะกรรมการดำเนินการจึงขอเรียนข้อเท็จจริงเบื้องต้น ให้ สมาชิกทราบว่าคณะกรรมการดำเนินการมีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจในการแก้ปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้ปล่อยปละละเลยหรือไม่ได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ตามที่ชมรมฯกล่าวหา และขอยืนยันว่ายอดเงินที่หายไปจากบัญชีเงิน ฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนดินแดง กทม บัญชีเลขที่  144-101918-9 ไม่ใช่ยอด 1,175 ล้านบาทดังที่ชมรมให้ข่าวแต่อย่างใดเพราะชมรมมีข้อมูลเฉพาะใบเบิกถอน แต่หลักฐานการโอนกลับมาบัญชีของ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด สาขามอดินแดงชมรมไม่มีหลักฐาน  หลังจากมีการตรวจสอบเอกสาร ที่มีทั้งหมดจำนวนเงินที่ถูกประทุษร้ายไปจริงจำนวน 405 ล้านบาท (ไม่ได้คำนวณดอกเบี้ย)แต่คณะกรรมการดำเนินการร้องทุกข์ไป จำนวน 431 ล้านบาท  (431,862,070 บาท) จึงเป็นตัวเลขกรณีลูกหนี้ เงินสดขาดบัญชีโดยยึดข้อมูลเบื้องต้นที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งใกล้เคียงกับการตรวจสอบเมื่อได้เอกสารมาครบ จากทางธนาคาร
       จริงๆคณะกรรมการไม่อยากก้าวล่วงเพราะอยู่ในระหว่างการดำเนินการทางคดี แต่จำเป็นต้องนำข้อมูลที่ถูกต้องเรียนมายังสมาชิกทุกท่านด้วยความเคารพ ขอให้สมาชิกทุกท่านได้เชื่อมั่นในการ ทำงานของคณะกรรมการ ขอรับรองว่าการดำเนินการทางคดีตามกฎหมายต้องได้ทรัพย์สินของสหกรณ์ฯเราที่ ถูกประทุษร้ายไปได้กลับคืนมาอย่างแน่นอน 
     จากกรณีความหวังดีของชมรมฯกลับเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรทันที คือ คณะกรรมการได้ติดต่อกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งและได้รับอนุมัติให้กู้เงินจำนวน 200 ล้านและได้โอนเงิน เข้าบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดเรียบร้อยแล้ว พอชมรมฯให้ข่าวทางสื่อมวลชนและ สื่อคอมพิวเตอร์ว่าเงินหาย 1,175 ล้านบาท สถาบันการเงินนั้นโอนกลับทันที มีหลักฐานยืนยันชัดเจน ทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เสียหายอย่างร้ายแรง
ขอร้องให้พวกเรามาช่วยกันคิดวางแผนพัฒนาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดให้เกิดความก้าวหน้า เป็นที่เชื่อถือของสถาบันการเงินต่างๆที่เป็นพันธมิตรกับเราและหาวิธีการช่วยเหลือสมาชิกเราทุกคนให้อยู่ดีมีสุข ตามอุดมการณ์สหกรณ์
       ขอให้ความมั่นใจกับมวลสมาชิกว่า สหกรณ์ฯ ขอเรามีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เพื่อเป็นที่พึงของ มวลสมาชิกสืบไป ปัจจุบันการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดดำเนินไปอย่างปกติอย่าหวั่นวิตกกับข่าวลือดังกล่าว และคณะกรรมการดำเนินการได้มีหนังสือชี้แจ้งนายทะเบียนและสถาบันการเงิน ต่างๆเพื่อให้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง
       คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด
                                 13 พฤษภาคม 2563